ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นิทานเรื่อง ชาวตังเกกับยักษ์จินนี่เจ้าเล่ห์ (The Fisherman And The Genie)


Once upon a time, a fisherman lived in a village. He had a small family of his wife and three children. He led his life with his earnings from fishing.

วันซ์ อะพอน อะ ไทม์, อะ ฟิชเชอร์แมน ลิฟด์ อิน อะ วิลเลจ. ฮี แฮด อะ สมอล แฟมิลี่ ออฟ ฮีส ไวฟ์ แอนด์ ตรี ชิลเดิร์น. ฮี เลด ฮีส ไลฟ์ วิธ ฮีส เอิร์นนิ่ง ฟร์อม ฟิชชิ่ง.
  • กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีครอบครัวชาวตังเกเล็กๆ อยู่หลังนึง ชาวตังเกได้อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกๆ ของเค้าอีกสามคน. เค้าหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการจับปลา.

One day, as he cast his net into the sea, he could not feel any fish in the net. He waited for some time and pulled the net out but there was nothing in the net.

วันเดย์, แอส ฮี เคสท์ ฮีส เน็ท อินโท เดอะ ชี, ฮี คู๊ล์ด น็อท ฟิล เอนี่ ฟิช อิน เดอะ เน็ท. ฮี เวท-ทิด ฟอร์ ซัม ไทม์ แอนด์ พูล-ดึด เดอะ เน็ท เอาท์ บัท แธร์ วอส น็อทติง อิน เดอะ เน็ท. 
  • อยู่มาวันหนึ่ง, หลังจากชาวตังเกได้วางอวนดักปลาลงไปในทะเลแล้ว, เขาก็ไม่รู้สึกว่ามีปลาติดอวนเลย. เขาจึงรอต่อไปอีกสักพักนึง และได้ลองเก็บอวนขึ้นมาใหม่อีกที แต่ก็ไม่มีอะไรติดอวนขึ้นมาเลย.

He became worried and thought to himself, "What will I say to my wife and children? Today, my family and I will starve without food.” He tried again and again but all his efforts were in vain.

ฮี บีเคลม วอรี๊ด-ดิด แอนด์ ธอท ทู ฮิมเซล์ฟ, “วอท วิล ไอ เซย์ ทู มาย ไวฟ์ แอนด์ ชิวเดิร์น? ทูเดย์, มาย แฟมมิลี่ แอนด์ ไอ วิล สตาร์พ วิธเอาซ์ ฟูด.” ฮี ทาย-ดึด อะเกน แอนด์ อะเกน บัท ออล ฮีส เอฟ’ เฟิร์ท เวอ อิน เวน. 
  • ชาวตังเกรู้สึกกลุ้มใจมาก พลางคิดในใจว่า, “ข้าจะบอกลูกกับเมียยังไงดีน้อ? วันนี้, ครอบครัวของข้าคงไม่มีอาหารทานอีกแล้วแน่ๆ เลย ป่านนี้แล้วยังหาปลาไม่ได้เลยสักตัว.” เค้าพยายามวางอวนดักปลาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ความพยายามของเค้าก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์.

Finally, he cast the net without any hope into the sea. After a few minutes, when he pulled the net, he felt that the net was heavy. His face brightened and it was full of hope. 

ไฟนอลลี่, ฮี เคสท์ เดอะ เน็ท วิธเอาซ์ เอนี่ โฮพ อินทู เดอะ ซี. อาฟเตอร์ อะ ฟิว มิสนิทส์, ฮี เฟล์ท แดท เดอะ เน็ท วอส เฮฟวี่. ฮีส เฟส ไบรท์เทน-นึด แอนด์ อิท วอส ฟูล ออฟ โฮพ.
  • และในครั้งสุดท้าย ก่อนที่เค้าจะตัดสินใจกลับบ้าน, ชาวตังเกได้วางอวนดักปลาลงไปในทะเลอย่างสิ้นหวัง. หลังจากนั้นไม่นานนัก, เมื่อถึงเวลาเก็บอวน, เค้าก็รู้สึกว่าอวนดักปลา มันหนักขึ้น. สีหน้าของเค้าจึงเต็มไปด้วยความหวังขึ้นมาทันที.

"It looks there is a big fish in my net!," he wondered. But when he pulled out the net from the sea, he saw a big old jar made up of brass was trapped in the net. The Jar was closed with a beautiful lid. Soon, he opened the Jar.

“อิท ลุ๊ค แธร์ อีส อะ บิ๊ก ฟิช อิน มาย เน็ท,” ฮี วันเดอเร็ด. บัท เว็น ฮี พูล-ดึด เอาท์ เดอะ เน็ท ฟร์อม เดอะ ซี, ฮี ซอว์ อะ บิ๊ก โอลด์ จาร์ เมด อัพ ออฟ บราสส์ วอส แทรบเพ็ด อิน เดอะ เน็ท. เดอะ จาร์ วอส โคลซ-ซิด วิธ อะ บิวตี้ฟูล ลิด. ซูน, ฮี โอเพ็น-นึด เดอะ จาร์.
  • “ดูเหมือนว่าจะมีปลาตัวใหญ่ติดอวนของเราแล้วสิน่ะ!,” ชาวตังเกคลุ้นคิด. แต่เมื่อเค้าได้เก็บอวนขึ้นมาจากทะเลแล้ว, เค้าก็ได้พบกับโถกุณโฑทองเหลืองเก่าๆ ใบหนึ่งติดขึ้นมากับอวนดักปลา. โถกุณโฑทองเหลืองเก่าๆ ใบนั้น ถูกปิดไว้ด้วยฝาปิดที่งดงาม. เค้าได้เปิดโถกุณโฑดูทันที.

There came a gigantic genie with an ugly wicked face. He laughed wickedly and said, "I have been hungry inside the jar. I want food immediately. I shall eat you".

แธร์ เคม อะ ไจแอนติค เจนนี่ วิธ อัน อักลี่ วิค-กึด เฟส. ฮี ล๊าฟ-ดึ วิคกึดลี่ แอนด์ เซด, “ไอ แฮฟ บีน ฮังกรี อินซายด์ เดอะ จาร์. ไอ วอนท์ ฟู๊ด อิมเม็ดเดียทลี่!. ไอ แซล อีท ยู”.
  • จากนั้นไม่นานนักก็ได้ปรากฎ เจ้ายักษ์จินนี่น่าเกลียดน่ากลัวขนาดมหึมายืนแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่ตรงหน้าของเค้า. มันได้หัวเราะอย่างดุร้ายและพูดกับชาวตังเกว่า, “ข้าอยู่อย่างหิวโหยอยู่ในโถกุณโฑนี้มานานแสนนานแล้ว. ข้าต้องการอาหารเดี๋ยวนี้!. ไม่งั้นข้าก็จะกินเจ้าแทน”.

On hearing that, the fisherman became very scared. But he gathered his courage and said. "You are so big. How can I satisfy your hunger?" The wicked genie who was very hungry did not bother and asked him to come near so that it could gobble up the fisherman.

ออน เฮียริ่ง แดท, เดอะ ฟิชเชอร์แมน บีเคม เวรี่ สแก-รึด. บัท ฮี เกเธอ-รึด ฮีส เคอริจ แอนด์ เซด์. “ยู อาร์ โซ บิ๊ก. ฮาว แคน ไอ แซททีสฟาย ยัวร์ ฮังเกอร์?” เดอะ วิค-คึด เจนี่ ฮู วอส เวรี้ ฮังกรี ดิด น็อท บอทเตอร์ แอนด์ อ๊าก-กึด ฮิมทู คัม เนียร์ โซ แดท อิท คู๊ด กอบเบิ้ล อัพ เดอะ ฟีชเชอร์แมน.
  • เมื่อได้ยินอย่างนั้น, ชาวตังเกก็หวาดกลัวอย่างมาก. เค้าได้รวบรวมความกล้าและพูดขึ้นว่า. “เจ้าตัวใหญ่ขนาดนี้. จะกินข้าผู้มีร่างกายเล็กกระจ้อยร่อย มันจะช่วยบรรเทาความหิวให้เจ้าได้อย่างไรล่ะ?” เจ้ายักษ์เจ้าเล่ห์จินนี่ผู้หิวโหยไม่สนใจในคำพูดของชาวตังเกเลย พลางเรียกให้ชาวตังเกขยับมาใกล้ๆ เพื่อที่มันจะได้จับชาวตังเกได้นั้นเอง.

The fisherman said, "I am very poor. I didn't do any harm to you. Why do you want to kill me, Genie?" But the genie did not pay any attention and said "I would not hear your words again. Come near me quick!" 

เดอะ ฟิชเชอร์แมน เซด์, “ไอ แอม เวรี่ พัวร์. ไอ ดิด น็อท ดู เอนี่ ฮาร์ม ทู ยู. วาย ดู ยู ทู คิว มี, เจนี่?” บัท เดอะ เจนี่ ดิด น็อท เปย์ เอนี่ อะเทนเซิ่ล แอนด์ เซด์ “ไอ วู๊ด น็อท เฮียร์ ยัวร์ เวิร์ด อะเก็น. คัม เนียร์ มี ควิก!”
  • ชาวตังเกพูดต่อว่า, “ตัวข้านี้ช่างกระจอกงอกง่อย. ข้าทำอันตรายใดๆ กับเจ้าไม่ได้หรอก. แล้วทำไมเจ้าถึงจะกินข้าด้วยล่ะ, จินนี่?” แต่ เจ้ายักษ์จินนี่ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้นเลย มันตอบกลับว่า “ข้าไม่อยากฟังอะไรจากเจ้าทั้งนั้น. มาๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ ข้าเดี๋ยวนี้!”

The fisherman thought for a while and finally, he got an idea to escape from the genie. He said, "You can eat me! But before you eat me, you have to answer my question". "Okay!" the genie agreed.

เดอะ ฟิชเชอร์แมน ตอท ฟอร์ อะ ไวล์ แอนด์ ไฟนอลลี่, ฮี ก็อท อัน ไอเดีย ทู เอสเคป ฟรอม เดอะ เจนี่. ฮี เซด์, “ยู แคน อีท มี! บัท บีฟอร์ ยู อีท มี, ยู เฮฟ ทู แอนส์เซอร์ มาย เควสชั่น”. “โอเคร!” เดอะ เจนี่ อะกรีด.
  • เมื่อชาวตังเกได้ยินอย่างนั้นเค้าได้นิ่งคลุ้นคิดสักพักและในที่สุด, เค้าก็ได้คิดทางหนีทีไล่ออกจากเจ้ายักษ์จินนี่ได้สำเร็จ พลางพูดขึ้นว่า, “เจ้าจะกินข้าก็ได้น่ะ! แต่ก่อนตาย, เจ้าต้องตอบคำถามของข้าก่อน”. “ก็ได้ๆ!” เจ้ายักษ์จินนี่ตอบตกลง.

The fisherman asked him how such a huge genie could be inside a small Jar. The genie replied that he could make himself as tiny as he wanted to be. The fisherman wanted to test it.

เดอะ ฟิชเชอร์แมน อ๊าก-กึด ฮึม ฮาว ซัช อะ ฮิ้ว เจนี่ คู๊ด บี อินซายด์ อะ สมอล จาร์. เดอะ เจนี่ รีพาย-ดึด แดท ฮี คู๊ด เมค ฮิมเซล์ฟ แอส ไทนี่ แอนฮี วอท-ทิด ทู บี. เดอะ ฟิลเซอร์แมน วอท-ทิด ทู เทส อิท.
  • ชาวตังเกได้ถามเจ้ายักษ์ว่า มันมีขนาดใหญ่โตมหึมาขนาดนี้ แล้วมันเข้าไปอยู่ในโถกุณฑีเล็กๆนี้ ได้อย่างไร. เจ้ายักษ์มันก็ตอบว่า มันสามารถหดตัวได้เล็กเท่าไหร่ก็ได้ เท่าที่มันต้องการ. เมื่อเห็นดังนั้น ชาวตังเกจึงบอกให้เจ้ายักษ์แสดงให้เค้าดู.

The genie was ready to show him his strengths. So, he made himself as small as he could and jumped into the jar.

เดอะ เจนี่ วอส เรดดี้ ทู โชว์ ฮิม ฮีส สเทรงส์. โซ, ฮี เมด ฮิมเซล์ฟ แอส สมอล แอส ฮี คู๊ด แอนด์ จัม-พึด อินทู เดอะ จาร์.
  • เมื่อได้ยินอย่างนั้น, เจ้ายักษ์จินนี่ก็รีบแสดงอิทธิฤทธิ์ของมันทันที. มันได้หดตัวของมันจนเล็กกระจิ๋วหลิวและกระโดดเข้าไปในโถกุณฑี.


Suddenly, the fisherman closed the jar immediately and threw the Jar into the Sea. So, the wicked Genie had locked inside the Jar once again.

ซัดเดนลี่, เดอะ ฟิชเชอร์แมน โคล๊ด เดอะ จาร์ อิมเมดเดียทลี่ แอนด์ ติว เดอะ จาร์ อินทู เดอะ ซี. โซ, เดอะ วิค-กึด เจนี่ แฮด ล็อค-กิด อินซายด์ เดอะ จาร์ วันซ์ อะเกน.
  • ตามคาด ชาวตังเกปิดฝาโถกุณฑีทันที และได้ปาโถกลับลงไปในทะเลอย่างรวดเร็ว. ดังนั้น, เจ้ายักษ์จินนี่เจ้าเลย์ก็เลยถูกกักขังไว้ในโถกุณฑีอีกครั้งนึง. 

The fisherman was very happy that he was saved and he escaped from the danger with his presence of mind.

เดอะ ฟิชเชอร์แมน วอส เวรี่ แฮปปี้ แดท ฮี วอส เซฟ แอนด์ เอสเคป ฟรอม เดอะ แดนเจอร์ วิธ ฮีส พรีเซนซ์ ออฟ มายด์.
  • ชาวตังเกดีใจอย่างมากมาย ที่เค้ารอดตายมาได้ และได้พาตัวเองรอดพ้นจากภัยอันตรายด้วยสติปัญญาของเค้าเอง.
ขอขอบคุณเนื้อหานิทานภาษาอังกฤษและภาพประกอบจาก: เว็ปไซต์ Bed time story. ^^

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิทานเรื่อง “เจ้าหญิงบนยอดเขาแก้ว” (The Princess On The Glass hill)

Long, long time ago, there lived a farmer who had three sons and forty acres of fields. But every year on mid-summers, every last plant on his land was eaten. The farmer sent his three sons out to guard the field the next year. ลอง, ลอง ไทม์ อะโก, แธร์ ลิฟ-ดึด อะ ฟาร์มเมอ ฮู แฮด ตรี ซัน แอนด์ ฟอร์ตี้ เอเคอร์ ออฟ ฟิล์ด. บัท เอเวอรี่ เยียร์ ออน มิด-ซัมเมอร์, เอเวอรี่ ลาสท์ แพลนท์ ออน ฮีส แลนด์ วอส อีท-ทีน. เดอะ ฟาร์มเมอ เซนท์ ฮีส ตรี ซัน เอาซ์ ทู การ์ด เดอะ ฟิล์ด เดอะ เน็ทซ์ เยียร์. กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว, ชาวนาคนหนึ่ง เค้ามีลูกชายอยู่ด้วยกันสามคน และชาวนามีที่ทำกินสี่สิบเอเคอร์ (ประมาณร้อยกว่าไร่). แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนของทุกๆ ปี, ผลผลิตในไร่ของเค้าก็มักจะถูกทำลายเสียหายเรื่อยมา. ดังนั้น ชาวนาจึงได้ส่งลูกชายทั้งสามคนของเค้า ให้ออกไปเฝ้าดูแลผลผลิตในไร่. The oldest son, Barty, was very tall and very thin.  The middle son, Otis, was very fat and lazy.  That night he heard a scream and ran from the field. เดอะ โอลด์เดสท์ ซัน, บาร์ตี๊, วอส เวรี่ ทอล แอนด์ เวรี่ ธิน....

USA prenatal care & check up! ตั้งครรภ์ในอเมริกา ฝากครรภ์กี่เดือน ควรฝากตอนใหน?

การฝากครรภ์   คืออะไร ? การฝากครรภ์  (Prenatal care)  คือ การตรวจสุขภาพเป็นระยะ   ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์จนกระทั่งถึงวันคลอด   โดยคุณหมอจะคอยตรวจความเรียบร้อยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ สิ่งที่คุณแม่ต้องได้รับการตรวจในช่วงการฝากครรภ์ มีดังนี้ ยืนยันการตั้งครรภ์   รวมถึงตรวจอายุครรภ์จากรอบประจำเดือนล่าสุด ซักประวัติ  คุณหมอ จะถามเรื่องทั่วไป   เช่น   เคยตั้งครรภ์มาก่อนไหม   มีโรคประจำตัวหรือเปล่า   ยาที่ใช้ประจำ   เป็นต้น ตรวจร่างกาย   แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ   ส่วนแรกคือตรวจทั่วไป   เช่น   วัดความดัน   ชั่งน้ำหนัก   ส่วนสูง   ตรวจการทำงานของปอด   อีกส่วนคือการตรวจภายใน   ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ   แต่สามารถเช็คความผิดปกติได้ทั้งรังไข่   ท่อนำรังไข่   ช่องคลอด   รวมถึงมะเร็งปากมดลูก   ที่สำคัญคือไม่เจ็บ ตรวจเลือด   เปรียบเสมือนการสกรีนร่างกาย   เพราะเลือดสามารถบอกค่าต่างๆ   ในร่างกายได้เป็นภาพกว้าง   เช่น  ไขมัน  เบาหวาน...

นิทานเรื่อง เพื่อนรักต่างพันธุ์ (A Special Friendship)

In a village, there was a boy named “Bob” who lived with his mother in a small house. Every day after class, Bob went into the forest to pick up woods with his mother. อิน อะ วิลเลจ, แธร์ วอส อะ บอย เนม-มึด “ป๊อบ” ฮู ลิฟ-ดึด วิธ ฮีส ม๊าเตอร์ อิน อะ สมอลล์ เฮาส์. เอฟเวอรี่ เดย์ อาฟเตอร์ คลาส, ป๊อบ เว็นท์ อินทู เดอะ ฟอเรสท์ ทู พิค อัฟ วูดส์ วิธ ฮิส ม๊าเตอร์. ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง, มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้ามีชื่อว่า “ป๊อบ” เขาได้อาศัยอยู่กับมารดาในบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง. ในทุกๆ วัน หลังจากเลิกเรียนแล้ว, ป๊อบมักจะเข้าไปในป่า เพื่อหาฟืนกับแม่ของเค้า. One day, on the way to the forest, Bob found a homeless puppy by the road. He looked so sad and miserable. Seeing how hungry the puppy was, Bob decided to bring him home to take care of him. วัน เดย์, ออน เดอะ เวย์ ทู เดอะ ฟอเรสท์, ป๊อบ ฟาวด์ อะ โฮมเลส พัพพี่ บาย เดอะ โรด. ฮี ลุ๊ค โซ แซด แอนด์ มิสราเบิ้ล. ซียิ้ง ฮาว ฮังกรี เดอะ พัพพี่ วอส, ป๊อบ ดีซาย-ดึด ทู บริง ฮิม โฮม ทู เทค แคร์ ออฟ ฮิม. อยู่มาวันนึง, ในระหว่างทางเดินเข้าไปในป่านั้น, ป๊อบได้เจอกั...

นิทานสองภาษาเรื่อง “เจ้าป่าจอมตะกละและกระต่ายป่าผู้ชาญฉลาด (The lion and the hare)

Once upon a time, there was a dense forest, where had lots of animals and birds living it. วันซ์ อัพพอน อะ ไทม์, แธร์ วอส อะ เดนส์ ฟอร์เรส, แวร์ แฮด ลอท ออฟ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟวิ่ง อิท. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, มีป่าหนาทึบอยู่แห่งหนึ่ง, ที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและนกต่างๆ นานาชนิด อาศัยอยู่ในนั้น. All the animals and birds lived in perfect harmony. No bigger animal or bird ever killed a smaller one for food. ออล เดอะ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟต์-ดึด อิน เพอเฟคท์ ฮาร์มโมนี่. โน บิ๊กเกอร์ แอนนิมอล ออร์ เบิร์ด เอฟเวอร์ คิว-ดึด อะ สมอลเลอร์ วัน ฟอร์ ฟู๊ด. เหล่าสัตว์ป่าและนกนานาชนิด ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างผาสุข. ไม่มีสัตว์ใหญ่นักล่าไล่ฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นอาหารเลย หรือแม้กระทั่งพวกนกนักฆ่าเอง ก็ไม่ล่าอาหารเช่นกัน. However, there was one exception, and that was the king of the jungle- an evil lion. The lion hunted around the forest at all times and killed animals for food. ฮาวเอฟเวอร์, แธร์ วอส วัน เอ็กเซ็บชั่น, แอนด์ แธท วอส เดอะ คิง ออฟ เดอะ จังเกิ้ล- อัน อีวิ้ว ไลออน. เดอะ ไลออน ฮัน...

ชิลี่ (Classic Chili) อเมริกัน จานเผ็ด!

ชิลี่ (Chili) อาหารสุดคลาสสิคจานเผ็ดจานด่วนของชาวอเมริกัน  หรือเรียกเต็มๆ ยศว่า “อเมริกันชิลี่ (American Chili)”  “ชิลี่” (Chili) แปลง่ายๆ ตรงๆ ว่า "พริก" นี่แหละจร้าา ไม่ต้องโต๊ด!   “ชิลี่” เป็นอาหารจานหนึ่งของชาวอเมริกัน ที่มีรสเผ็ดนำ โดดเด่น เผ็ดดุ สำหรับฝรั่งเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่นับคนเอเชียอย่างเราๆ หึหึ เผ็ดอนุบาลยังเรียกน้องจ๊ะ! “ชิลี่” มีลักษณะคล้ายๆ กับ “น้ำพริกอ่อง” บ้านเรา ต่างกันตรงที่มี “เมล็ดถั่วแดง” เป็นส่วนผสม ต้มให้นุ่ม แต่ไม่เปื่อยยุ่ยมากนัก มีรสเผ็ดออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ โปรตีนเน้นๆ อ่ะ! เริ่มงงกันแล้วสิ ชิมิ ^^ “ชิลี่” นิยมทำเป็นอาหารมื้อค่ำ เพราะว่าสะดวก วัถตุดิบหาง่าย ทำง่าย ใช้เวลาตุ๋นไม่นาน “หัวหอมใหญ่” สิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องเตรียม! “ชิลี่” ท๊อปปิ้งสุดฮิต เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เชดดาร์ชีสขูดฝอย (shredded cheddar cheese) ซาวครีม/ครีมเปรี้ยว (sour cream) ต้นหอมซอย (sliced green onions) แครกเกอร์ชนิดเค็ม (saltine crackers) อะโวคาโดหั่นลูกเต๋า (diced avocado) หลังจากแกะสูตรจากพี่กลู (กลูเกิ้ล) ฝึกทำ “ชิลี่” ลองผิดลองถูกมาก็หลายครั้งหลายคราว จน...